วันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2561

เก่ง ดี มีสุข


"เก่ง ดี มีสุข"
แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติฉบับที่ ๑๐ มีเจตนารมณ์มุ่งพัฒนาชีวิตให้เป็น "มนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ และคุณธรรม มีจริยธรรมในการดำรงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข" หรือกล่าวอีกอย่างคือบุคคลที่มีความ "เก่ง ดี มีสุข" ซึ่งหากนี่คือเป้าหมายหลักของภาครัฐ ที่ต้องการให้เด็กและเยาวชนไทยเติบโตอย่างสมบูรณ์พร้อมทั้งทางด้านไอคิวและอีคิว ตรงตามเป้าหมายการศึกษา คือ ผู้เรียนเป็น คนดี คนเก่ง และ มีความสุข ยึดคุณธรรมนำความรู้ สู่สังคมไทยโดยสิ่งที่จะบ่งบอกว่าบุคคลใดเป็นบุคคลที่มีความเก่ง ดี และมีสุขในการศึกษา คือ
เก่ง หมายถึง ความสามารถทางพุทธิปัญญา คือ ความรู้ความเข้าใจที่แจ่มแจ้งสามารถนำไปใช้ได้ วิเคราะห์เป็น สังเคราะห์ได้ ประเมินได้อย่างเข้าใจ และรู้แจ้งตามศักยภาพ
ดี หมายถึง เป็นผู้มีเจตคตินิยมที่ดีทั้งต่อการเรียน ความเป็นอยู่ต่อบุคคล ต่อสังคม ชุมชน และประเทศ
มีสุข หมายถึง สนุกกับการเรียนและใคร่เรียนรู้ตลอดชีวิต

ซึ่งหากจะให้ความหมาย เก่ง ดี มีสุข ในด้านการดำเนินชีวิตโดยทั่วไปของผู้คนแล้วนั้นก็จะสามารให้ความหมายที่แตกต่างกันออกไปได้อีก คือ
เก่ง หมายถึง ความสามารถในการรู้จักตนเอง มีแรงจูงใจ สามารถตัดสินใจแก้ปัญหาและแสดงออกได้อย่างมีประสิทธิภาพที่ดีกับผู้อื่น
ดี หมายถึง ความสามารถในการควบคุมอารมณ์และความต้องการตนเอง รู้จักเห็นใจผู้อื่น และมีความรับผิดชอบต่อส่วนร่วม
มีสุข หมายถึง ความสามารถในการดำเนินชีวิตอย่างมีสุข

จากแผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติฉบับที่ ๑๐ มีเจตนารมณ์มุ่งพัฒนาชีวิตให้เป็น "มนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ และคุณธรรม มีจริยธรรมในการดำรงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข" หรือกล่าวอีกอย่างคือบุคคลที่มีความ "เก่ง ดี มีสุข ซึ่ง เก่ง ดี มีสุข ของใครหลายคนอาจจะไม่ครบ บางคนอาจจะไม่ได้อยู่ในความหมายที่กำหนดไว้
สำหรับดิฉัน ในคำว่า เก่ง สำหรับดิฉันเอง ในความเก่งของตัวดิฉันเอง ดิฉันคิดว่าดิฉันก็เก่งในระดับหนึ่งที่สามารถเรียนในโรงเรียนที่ยอมรับและนิยม ตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน ซึ่งตั้งแต่อนุบาลถึงประถม 6 เรียนโรงเรียนอนุบาลพิบูลเวศม์ ซึ่งเป็นที่ยอมรับและมีชื่อในระดับหนึ่ง เข้าเรียนด้วยความสามารถของตนเองด้วยการสอบ ระดับมัธยมต้นและปลาย เรียนโรงเรียน ศรีอยุธยา ในพระอุปถัมภ์ฯ กรุงเทพฯ ด้วยผลการที่ค่อนข้างดีในระดับหนึ่ง และสามารถเข้ามหาวิทยาลัยที่ต้องการด้วยการสอบแอดมิตชั่น โดยใช้คะแนนในการสมัครเรียน ได้ศึกษาใน คณะครุศาสตร์ แขนงวิชาการศึกษาปฐมวัย ซึ่งใครหลายคนฝันอยากจะเข้าแต่ไม่สามารถเข้าได้ สำหรับดิฉันสามารถเข้าเรียนได้ เพราะองค์ประกอบหลายๆอย่าง ดิฉันก็เป็นอีกหนึ่งคนที่โชคดีใน50คนที่ได้มาเรียนในแขนงวิชานี้ ซึ่งผลการเรียนปานกลางไม่น้อยเกินกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ และสามารถเรียนได้มาถึงชั้นปีที่3 ดิฉันภูมิใจในตัวเอง ถึงอาจจะไม่ได้เก่งอย่างใคร แต่ดิฉันก็ถือว่าตนเองเก่งแล้ว และไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน

สำหรับคำว่า ดี  ดิฉันคิดว่าตนเองดีพอ และมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนหรือเป็นปัญหา ในคำว่าดีสำหรับดิฉันอาจจะไม่ได้ถึงขั้นดีเลิศ แต่ที่เป็นอยู่ ปฎิบัติอยู่โดยไม่เป็นภาระ หรือไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ก็ถือว่าดีแล้ว ส่วนสังคม ดิฉันได้ช่วยเหลือ เป็นคนดีของสังคมโดยการ ทำจิตสาธารณะ และช่วยผู้อื่นตามกำลังและความสามารถของตนเอง เช่นการไปค่ายสังขละบุรี ที่ได้ไปเป็นจิตอาสา  ช่วยน้องๆที่ด้อยโอกาส การไปทำความสะอาดวัดต่างๆ การไปจัดกิจกรรมให้กับโรงเรียนโดยอาสาไปจัดกิจกรรม ซึ่งสิ่งที่ทำอาจจะยังไม่มากพอสำหรับสังคม แต่ดิฉันจะทำไปเรื่อยๆเมื่อมีโอกาสและจะทำให้เต็มที่ สุดความสามารถ
คำสุดท้าย คำว่า มีสุข ดิฉัน มีความสุขในทุกๆกิจกรรมที่ทำ อาจจะไม่ได้มีความสุขมากมาย แต่ความสุขก็เกิดขึ้นได้ทุกๆที่เพียงแค่เปิดใจ และคิดบวก ทุกอย่างก็คือความสุขได้หมดในความคิดของดิฉัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตการเรียน  การทำงาน ทุกสถานการณ์มีความสุขได้ เล็กๆน้อยๆ ก็ไม่เป็นไร ขอแค่วันหนึ่งในทุกๆกิจกรรม มีรอยยิ้มก็พอแล้ว เท่านี้ก็มีความสุขกับชีวิต 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น